มาทำความรู้จักกับ GIDA กัน

Crypto Girl
4 min readMay 16, 2020

--

GIDA คืออะไร

GIDA เป็นการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่กำลังมาแรงในยุคนี้ ซึ่งก็คือ Smart Contract มาใช้บน Ethereum Blockchain

GIDA ได้สร้าง Application ขึ้นมา 1 ตัว ซึ่งนำมาใช้งานบน Ethereum Blockchain (เรียก Application นี้ว่า DApps)โดยมีการเขียนสัญญา ข้อตกลง เงื่อนไขต่างๆ ในรูปแบบของโค้ด (เรียกว่า Smart Contract) และการทำงานของโค้ดก็คือ จะเช็คว่า เราทำตามเงื่อนไขที่ได้ระบุไว้ในสัญญารึป่าว ซึ่งถ้าเราได้ทำตามเงื่อนไขหรือข้อตกลงที่เขียนไว้ เราก็จะได้รายได้ตามเงื่อนไขหรือตามแผนการตลาดที่ได้ระบุไว้

gida คืออะไร

แผนการทำงานของ GIDA แบบภาษาง่ายๆ ก็เหมือนเป็นการเขียนสัญญาขึ้นมาฉบับหนึ่ง ที่ทำการตกลงระหว่างเรากับ GIDA ว่าถ้าเราทำตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาได้ เราก็จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ แต่ถ้าเราทำไม่ได้ เราก็ต้องยอมเสียเงินตรงนั้น เพียงแต่ว่าสัญญาฉบับนี้เขียนขึ้นมาอยู่ในรูปแบบสัญญาดิจิตอล ที่จะเขียนเป็นโค้ด ซึ่งถ้าเรายอมรับและตกลงตามเงื่อนไขของ GIDA ก็คือเราจะโอนเงิน 0.12 ETH เข้าไปในระบบ นั่นก็ถือว่าเราได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงในสัญญาแล้วโดยอัตโนมัติ จากนั้นก็เหลือแค่ว่า เราจะทำตามเงื่อนไขในสัญญาที่เราได้ยอมรับแล้วได้รึป่าว ถ้าทำได้ ก็จะได้ผลตอบแทนโดยอัตโนมัติ ถ้าทำไม่ได้ ก็จะเสียเงินให้กับคนที่สามารถทำได้ตามเงื่อนไขในสัญญา หลักการง่ายๆมีเพียงแค่นี้เองค่ะ

ดังนั้น ถ้าเราทำตามเงื่อนไขในสัญญาได้ เราก็จะได้รายได้ตามที่ในสัญญาระบุไว้ แต่ถ้าเราทำตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาไม่ได้ เราก็จะไม่ได้รับรายได้ ดังนั้น ถ้าทุกคนทำตามเงื่อนไขที่ GIDA กำหนดไว้ได้ ยังไงก็จะได้รายได้แน่ๆ เพราะเงินจะถูกโอนเข้ากระเป๋า Smart Wallet ของแต่ละคนโดยตรง โดยแค่มีตัวสัญญา(Smart Contract) เป็นตัวแยกหรือคัดกรองว่า เงินที่เข้ามา จะต้องถูกจ่ายไปที่ใครบ้าง และจ่ายให้เป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งสัญญาตัวนี้ GIDA เขียนไว้บน Ethereum Blockchain ดังนั้น เราจึงต้องใช้เหรียญ ETH เท่านั้น ในการทำธุรกรรมต่างๆ เพราะจุดประสงค์หลักๆของสัญญาตัวนี้ที่ GIDA เขียนสัญญาขึ้นมาก็คือ ต้องการทำให้เหรียญ ETH มีราคา มีมูลค่า มี Volumn และเป็นที่ต้องการของตลาด Cryptocurrency อย่างแท้จริง ไม่ใช่การปั่นราคา

GIDA ก็เหมือนกับการเล่นหุ้น หรือการเทรด Forex คือต้องมีคนที่ได้ และต้องมีคนที่เสีย หรือง่ายๆเลยคือ เหมือนกับการซื้อลอตเตอรี่ ซื้อหวย ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกว่าจะถูกรางวัลมั้ย แต่เราก็ยังซื้อ ยังเลือกที่จะลองเสี่ยงดู ทั้งๆที่อาจจะไม่ได้อะไรคืนมาเลยก็ได้ ที่หลายๆคน เต็มใจและพร้อมที่จะเสี่ยง ก็เพราะว่ามันมีโอกาสที่จะทำให้เราได้เงินที่มากขึ้นได้

GIDA เองก็เหมือนๆกันค่ะ GIDA ก็เหมือนเกมส์การเงินทั่วๆไป ที่จะมีทั้งคนได้และคนเสีย แต่ GIDA ง่ายกว่าตรงที่เรามีสิทธิเลือกได้ ว่าเราต้องการเป็นคนที่ได้ หรือคนที่เสียค่ะ เพราะแค่เราลงมือทำ เราก็มีสิทธิที่จะได้แล้วค่ะ ต่างจากลอตเตอรี่นะคะ ที่เราไม่มีสิทธิทำอะไรให้เรามีโอกาสได้รางวัลเลย นอกจากรอลุ้นและใช้ดวงล้วนๆค่ะ

ซึ่ง GIDA ถ้าเราทำ และทำได้ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา ยังไงเราก็ได้เงิน แต่ถ้าเราทำตามในเงื่อนไขไม่ได้ เราก็ไม่ควรมีสิทธิที่จะได้รับผลตอบแทนตามสัญญา ซึ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติ ไม่มีใครสามารถไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้น ทำให้โกงไม่ได้ ทุกอย่างจะเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาเท่านั้น

ซึ่งเงื่อนไขในสัญญาที่ระบุไว้ของ GIDA มีแค่ 4 ข้อเองค่ะ คือ

  1. จ่ายค่าสมัครเพื่อใช้แพลตฟอร์ม GIDA 0.12 ETH
  2. ชวนเพื่อนมาสมัคร 3 คน ที่ยอมรับเงื่อนไขและสามารถจ่ายค่าสมัครคนละ 0.12 ETH ได้
  3. พร้อมช่วยเพื่อน 3 คนให้มี 3 คน เหมือนกับเรา
  4. แบ่งกำไรบางส่วนที่ได้มา มาอัพเกรดบัญชีตัวเอง เพื่อรับผลประโยชน์สูงขึ้นตามลำดับ หรือหยุดทำเลยก็ได้และรับผลกำไรตามที่ได้มาแค่นั้น

**หากไม่มีความพร้อมในเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง ไม่แนะนำให้ลงทุนนะคะ**

**ปล. การลงทุนมีความเสี่ยง และความเสี่ยงสูงสุดของ GIDA คือ 0.12 ETH หรืประมาณ 850–950 บาทค่ะ

หากรับความเสี่ยงไม่ได้ อย่า!!ตัดสินใจลงทุน**

ในเมื่อเรารู้เงื่อนไขของ GIDA แล้วว่าเป็นแบบนี้ การที่เราโอนเงิน 0.12 ETH เข้าไป นั่นหมายความว่าเราได้ยอมรับเงื่อนไขและข้อตกลงของสัญญาที่ GIDA ได้ระบุไว้แล้ว หลังจากนั้น ถ้าเราทำตามเงื่อนไขตามที่ระบุไว้ได้ เราก็จะได้รับรายได้ตามแผนการตลาดที่ GIDA ได้เขียนไว้ในสัญญา

มันอาจจะดูเหมือนแชร์ลูกโซ่ ที่หาคนมาต่อเรื่อยๆ และกินค่าสมัครของคนที่มาทีหลัง แต่จริงๆแล้ว ทุกธุรกิจเป็นแบบนี้หมดนะคะ เพราะเหมือนกับถ้าไม่มีคนมาซื้อมาใช้สินค้าของเราเพิ่ม ธุรกิจก็จะอยู่ไม่ได้ ของ GIDA ก็เหมือนกันค่ะ เมื่อวันนึงไม่มีคนเข้ามาใช้แพลตฟอร์มเพิ่ม มันก็จะจบเหมือนธุรกิจอื่นๆค่ะ เราก็เหมือนกับแค่ทำงานไปตามเงื่อนไขและข้อตกลง ที่เรายอมรับ ว่าเราจะมาช่วยทำให้ ETH มีราคาที่สูงขึ้น มี Volumn ในการเทรดมากขึ้น และมีสภาพคล่องตลอดเวลา ซึ่งการที่จะทำให้เป็นแบบนี้ได้นั้น จำเป็นต้องมีคนหลายๆคน ที่เข้ามาเทรด และนี่จึงเป็นที่มาของเงื่อนไขของ GIDA ที่ให้พวกเรา ช่วยกันชวนคนมาเทรด ETH เพราะทุกๆครั้งที่เรา เอาเงินบาทไปแลกเป็น ETH เพื่อที่จะส่งเข้าไปใน GIDA หรือพอเราได้รับรายได้เป็น ETH มาแล้วเอาไปแลกกลับเป็นเงินบาท นั่นคือเรา กำลังสร้าง Volumn ในการเทรดให้กับ ETH อยู่ และการที่แผนการตลาดให้ชวนคนมา เพราะแค่ต้องการให้มีการเทรดเกิดขึ้นเรื่อยๆ ตลอดเวลาเท่านั้น แต่ถ้าไม่มีอะไรตอบแทน ก็จะไม่สามารถดึงดูดคนให้เข้ามาเทรดกันเยอะๆแบบนี้ได้ ดังนั้น GIDA จึงได้คิดแผนการตลาดแบบนี้ขึ้นมา เพื่อที่จะดึงดูดให้มีการชวนกันมาเทรด และมีค่าตอบแทนให้กับทุกๆคน ที่ช่วยกันชวนคนมาเทรด ETH และที่สำคัญที่สุด GIDA ก็ไม่ได้เก็บเงินไว้ที่ตัวเองเลยนะคะ เพียงแต่ขอส่วนแบ่งแค่ 3% เท่านั้น จริงๆแล้ว GIDA เหมือนเป็นแค่สัญญาตัวนึง ที่เอาไว้เช็คหรือตรวจสอบเงื่อนไขว่าเงินที่เข้ามา จะต้องถูกแบ่งไปให้ใครบ้าง และต้องจ่ายให้ใครจำนวนเท่าไหร่เท่านั้น

ซึ่งถ้าเราเข้าใจว่า GIDA เป็นเพียงแค่ Application ตัวนึง ที่พัฒนาขึ้นมาใช้บน Ethereum Blockchain และใช้ Smart Contract เป็นตัวจัดการตามเงื่อนไขการกระจายรายได้ เราจะรู้ว่า มันจะโกงเราไม่ได้ ปิดก็ไม่ได้ ลบก็ไม่ได้ เปลี่ยนแปลงก็ไม่ได้ สิ่งที่จะทำให้เราไม่ได้รับผลตอบแทน มีเพียงข้อเดียวเลยก็คือ เราทำตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาของ GIDA ไม่ได้เท่านั้นเองค่ะ

และถ้าคุณทำไม่สำเร็จตามเงื่อนไข คุณก็จะแค่เสียเงินให้กับ GIDA เพียงแค่ 950 บาท

แต่ถ้าคุณทำได้ ทำสำเร็จ รายได้ที่คุณจะได้รับกลับมา มันมากกว่า 950 บาทแน่ๆ

ที่สำคัญก่อนหน้าที่คุณจะโอน 950 บาทเข้าไปให้ GIDA คุณเองก็ต้องยอมรับเงื่อนไขให้ได้ก่อนแล้วว่าคุณจะไม่เดือนร้อน ถ้าท้ายที่สุดแล้วคุณทำตามเงื่อนไขในสัญญาไม่ได้ และจะเสียเงิน 950 บาท ซึ่งถ้าคุณยอมรับเงื่อนไขไม่ได้ ก็เพียงแค่ไม่ต้องโอนเงินไปให้ GIDA ค่ะ เรารู้เงื่อนไขของ GIDA ก่อนแล้ว ดังนั้นเรามีสิทธิเลือกได้ค่ะว่า จะโอนเงินหรือไม่

และนี่คือสิ่งที่ทำให้ GIDA ต่างจากการลงทุนทั่วไปที่เราเคยเจอกันมาค่ะ คือ

  1. GIDA ไม่ได้เก็บเงินไว้ที่ตัวเองเลย
  2. การที่จะได้เงินจาก GIDA มีแค่ ทำตามเงื่อนไขในสัญญา (Smart Contract)ของ GIDA ให้ได้ แค่นั้นค่ะ

และถ้าคุณทำสำเร็จ คุณก็จะได้รับรายได้..

โดยรายได้ที่จะได้รับ มาจากไหนบ้าง รายได้ข้อไหนจะได้เท่าไหร่ จะมีสิทธิได้หรือไม่ได้ ก็จะมีเงื่อนไขในการที่จะรับรายได้อีกเหมือนกันค่ะ

ศึกษาเงื่อนไขการได้รับรายได้ของ GIDA ได้ที่บทความ “แผนรายได้ของ GIDA“ด้านล่างเลยนะคะ

สรุปความหมายสั้นๆ ของคำศัพท์แต่ละคำ

Ethereum เป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิตอล (Cryptocurrency) ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่ง Ethereum นั้น ยังถือว่าเป็นแพลตฟอร์มบล็อคเชนสาธาระ ที่เปิดให้ทุกคนเข้ามาเขียนข้อมูลบนสกุลเงินเพื่อร่วมพัฒนาได ้และมีคุณสมบัติพิเศษคือ Smart Contract อีกด้วย แปลว่า ใครก็ได้สามารถเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มนี้ได้ เพื่อสร้าง Application ในการใช้งานต่างๆ

Blockchain คือ รูปแบบการเก็บข้อมูลรูปแบบหนึ่งของระบบที่ไม่มีศูนย์กลาง มีลักษณะเป็นบล็อคเรียงต่อกันเป็นสาย แต่ละบล็อคก็จะมีชุดข้อมูลที่สามารถเชื่อมโยงไปยังบล็อคก่อนหน้าได้ ซึ่งการใช้งานจะต้องอาศัยเทคโนโลยีการเข้ารหัส ถอดรหัส เสริมเข้าไปอีก เพื่อจะได้รับประกันว่า ทุกรายการที่เขียนขึ้นมาใหม่นั้นถูกต้องและเชื่อถือได้ ทำให้เราจะแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลง หรือลบข้อมูลนั้นเป็นไปได้ยากมาก จึงทำให้โกงได้ยาก ดังนั้น Application ที่พัฒนาขึ้นมาภายในระบบ Blockchain เช่น DApp ก็จะได้รับประโยชน์ตรงนี้ของ ฺBlockchain ด้วย ทำให้เป็นแอพที่ไม่มีศูนย์กลาง น่าเชื่อถือและปลอดภัย ดังนั้น เราจึงมั่นใจได้เลยว่า GIDA มีความน่าเชื่อถือ ปลอดภัย และโกงไม่ได้

Smart Contract เป็นการแปลงสัญญาให้อยู่ในรูปแบบของสัญญาดิจิตอล คือเป็นการเขียนสัญญา ข้อตกลง เงื่อนไขต่างๆ ในรูปแบบของโค้ด แล้วนำไปเก็บไว้บน Blockchain ซึ่งมันจะทำงานอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ในสัญญา

Decentralized Application(DApp) คือ Application ที่ถูกสร้างขึ้นมาใช้บน Blockchain ซึ่งจะทำให้ Application เหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลางมาควบคุม

การใช้งาน Smart Contract บน Ethereum Blockchain คือ การเขียนสัญญาในรูปแบบของโค้ด แล้วนำไปเก็บไว้บน Blockchain ของ Ethereum ซึ่งจะสามารถใช้งานได้โดยการโอนเหรียญ Ethereum เท่านั้น เข้าไปในตัวสัญญานั้นๆ มีจุดประสงค์เพื่อตรวจสอบว่าใครทำที่ทำถูกต้องตามเงื่อนไขบ้าง และเงินที่เข้ามาควรจะกระจายไปที่ไหน ให้ใคร จำนวนเท่าไหร่ ซึ่งถ้าใครที่ทำตามเงื่อนไข ก็จะได้ในสิ่งที่ในสัญญาได้ระบุไว้ ใครที่ทำตามเงื่อนไขไม่ได้ ก็จะไม่ได้อะไร ซึ่งกระบวนการทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะเป็นอัตโนมัติทั้งหมด

--

--

No responses yet